UiChemy 3.0 เปลี่ยนเกม Figma to WordPress ให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น เหมือนมีทีม Dev ส่วนตัว

อ่านจบใน 1 นาที

การแปลงดีไซน์จาก Figma ไป WordPress เป็นเรื่องที่หลายคนกลัว ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำเว็บ หรือฟรีแลนซ์ที่ทำให้ลูกค้าหลายเจ้า ต่างก็เจอกับปัญหาเดิมๆ อย่างเช่น “Layout พังตอนแปลง” หรือ “เสียเวลา Export ทีละชิ้นจนไม่ทันเดดไลน์”

ถ้าใครเคยใช้เวอร์ชันก่อนของ UiChemy อาจรู้สึกว่ามันยังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แต่ตอนนี้ UiChemy 3.0 กลับมาแบบยกเครื่องใหม่ พร้อมตอบโจทย์ทั้งความเร็ว ความแม่นยำ และความง่ายในการทำงานแบบ WordPress Creator ตัวจริง

บทความนี้เราจะพาไปดูว่า UiChemy 3.0 ดียังไง มีอะไรใหม่ และทำไมมันถึงเหมาะกับสาย WordPress ที่อยากทำงานไวกว่าเดิม


ทำไม Figma to WordPress ถึงเป็นขั้นตอนที่หลายคนติด

ใครที่เคยทำเว็บจาก Figma จะรู้ว่าแค่ได้ดีไซน์มาชิ้นหนึ่ง ยังไม่ได้แปลว่าเราจะได้เว็บที่ตรงเป๊ะกับที่ออกแบบไว้ การจะให้ Figma Export ไปลง WordPress ตรงๆ โดยที่ Layout ยังอยู่ครบ Responsive ยังดี Font ยังตรง และสีไม่เพี้ยน นั้นแทบจะเป็นเรื่องในฝัน

โดยเฉพาะถ้าเราใช้ Elementor, Bricks หรือ Gutenberg อยู่ ยิ่งต้องมานั่งจัดโครงสร้างใหม่ทั้งหมด เช่น การตั้ง Box Width, การแปลง Auto Layout, หรือการ Map สีและ Typography


UiChemy 3.0 คืออะไร ดีขึ้นยังไงบ้าง

ไม่ต้องบังคับใช้ Auto Layout อีกต่อไป

ออกแบบตามที่ถนัดได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Freeform หรือ Auto Layout ก็สามารถแปลงไปเป็นเว็บไซต์ WordPress ได้หมด

เปลี่ยนขั้นตอน Optimize จาก 14 Step เหลือแค่ 1

UiChemy 3.0 ลดเวลาการเตรียม Figma ลงอย่างมหาศาล เพียงแค่คลิกเดียวก็แปลงโครงทั้งหมดเป็น Auto Layout พร้อม Export ได้ทันที

Global Style Sync ใช้ง่ายขึ้นเยอะ

Sync ค่า Typography, สี และความกว้างของกล่องจาก Figma ไปยัง WordPress ได้แบบเป๊ะๆ โดยเฉพาะใน Elementor จะมี Container ขนาดตรงกับ Figma ให้เลย ไม่ต้องมาแก้ Layout ทีหลัง

Responsive Design ที่แม่นยำขึ้นมาก

แสดงผลดีไซน์ได้ทั้ง Desktop, Tablet และ Mobile แบบตรงตามต้นฉบับ ไม่ต้องมาไล่แก้ CSS เองทีหลังให้วุ่น

ระบบ Export ที่ฉลาดขึ้น

ไม่ต้องมานั่งเลือกว่าจะใช้โหมด Import ไหน UiChemy จะเลือกวิธีที่ดีที่สุดให้โดยอัตโนมัติตามลักษณะของดีไซน์ ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาและลดข้อผิดพลาด


มุมมองจาก WPMartech ทำไม UiChemy 3.0 ถึงน่าใช้สำหรับ WordPress Creator

จากประสบการณ์การทำเว็บให้ลูกค้า เราเห็นชัดว่า “เวลาและความแม่นยำ” คือสองปัจจัยหลักที่ทำให้โปรเจกต์สำเร็จหรือช้าเกินไป

UiChemy 3.0 เข้ามาช่วยลดสิ่งเหล่านี้โดยตรง โดยเฉพาะ

  • Freelance ที่ต้องทำงานหลายโปรเจกต์พร้อมกัน
  • เอเจนซีที่มีทีมออกแบบกับทีม Dev แยกกัน
  • เจ้าของเว็บที่จ้างนักออกแบบทำ Figma แล้วอยากแปลงเป็นเว็บได้ไวๆ

เครื่องมือนี้ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อน กลายเป็น Workflow ที่ชัดเจน รองรับการทำงานเป็นทีม และลดเวลาที่ใช้จากหลักวัน เหลือแค่ไม่กี่ชั่วโมง


ตัวอย่างการใช้งานจริงที่เปลี่ยน Workflow ไปตลอดกาล

  • จากเดิมต้องใช้เวลา Optimize Figma นาน 3-4 ชั่วโมง ตอนนี้ใช้แค่ 15 นาที
  • เปลี่ยนจากการแปลงมือทีละ Widget เป็นแค่คลิกเดียวแล้วปล่อยให้ระบบจัดการ
  • ลดจำนวนปลั๊กอินที่ต้องใช้ใน WordPress ได้หลายตัว เพราะมี Cloudflare Enterprise, Solid Performance, และระบบ Backup ในตัว (เมื่อใช้งานร่วมกับ StellarSites)

Checklist สำหรับการใช้ UiChemy 3.0 ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

- เตรียม Figma ให้ชัดเจน ตั้งชื่อ Layer และ Group ให้เป็นระบบ
- ใช้ Widget Tags หรือ Optimization Companion ในขั้นตอนแปลง Auto Layout
- ตรวจสอบว่าใช้ Box Width ที่ตรงกับขนาด Container ใน Elementor หรือ Bricks
- ตั้งค่าสีและ Typography ให้ใช้ Global Style ใน Figma เพื่อ Sync ง่ายขึ้น
- ทดสอบ Responsive Design บนทุกขนาดหน้าจอก่อน Export

สรุป ใครควรลองใช้ UiChemy 3.0 วันนี้เลย

ถ้าคุณเคยเจอปัญหาเหล่านี้

  • รับ Figma มาแต่ไม่รู้จะเริ่มแปลงยังไง
  • เบื่อการจัด Layout ใหม่ซ้ำซากใน Elementor หรือ Gutenberg
  • อยากให้เว็บเร็ว ตรงดีไซน์ และประหยัดเวลามากขึ้น

UiChemy 3.0 คือคำตอบที่คุ้มสุดในตอนนี้ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมพัฒนาฟัง Feedback จากผู้ใช้จริงอยู่ตลอด

เริ่มต้นวันนี้โดยเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ uichemy.com หรือแชร์บทความนี้ให้เพื่อนร่วมทีมที่ยังปวดหัวกับ Figma อยู่

ลองใช้เลย แล้วคุณจะรู้ว่าแปลง Figma เป็น WordPress ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

อาทิตย์ เอี่ยมปา
ติดตาม